เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด ได้เข้าร่วมงาน “DX, Digital Transformation for NextGen Manufacturing” จัดขึ้นโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ณ ห้องบอลรูม 2 ชั้น 3 โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก ภายใต้หัวข้อการนำเสนอเรื่องราวความสำเร็จจากองค์กรชั้นนำระดับโลกในการปรับใช้ Digital Transformation เข้าร่วมกับองค์กรเพื่อให้เกิดประโยชน์อันสูงสุดกับทุกฟังก์ชั่นในการประกอบธุรกิจ ตั้งแต่การบริหารจัดการภายในจนถึงการสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้บริการ อาร์วี คอนเน็กซ์ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาสำคัญซึ่งนำเสนอด้านการปรับธุรกิจสู่ยุคดิจิทัลด้วยวิธีการที่เรียกว่า Smart Digital Transformation โดยทาง อาร์วี คอนเน็กซ์ ได้นำกรรมวิธีนี้มาใช้พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือดิจิทัลฉลาดเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการทางธุรการที่ใช้ภายในบริษัทเพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอันสูงสุด

นายธนจักร วัฒนกิจ รองประธานฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และการวิเคราะห์ข้อมูล (Cybersecurity and Data Analytics) ได้กล่าวถึง Smart Digital Transformation ด้านระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ว่าปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์นั้นคือระบบดิจิทัลที่คุกคามระบบดิจิทัลด้วยกันเอง การพึ่งพาบุคลากรในการดำเนินงานที่ระดับเทียร์ 1-3 จึงไม่เพียงพอต่อภัยคุกคามที่ไม่หยุดนิ่ง ประกอบกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรในสายงานนี้ การต่อต้านภัยคุกคามทางไซเบอร์จึงต้องอาศัยเครื่องมือที่มีความสามารถสูงทั้งในเรื่องของความแม่นยำ ความรวดเร็ว และความสามารถในการปรับตัวต่อรูปแบบการโจมตีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง AI และ ML (Artificial Intelligence, Machine Learning) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล Data-Driven จึงเป็นวิธีที่ อาร์วี คอนเน็กซ์ ใช้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถลดชั่วโมงทำงาน (Man-Hours) และลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Errors) AI สามารถเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องจากข้อมูลที่ได้รับ ทำให้ระบบมีขีดความสามารถในการต่อต้านภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้บริษัทสามารถคาดการณ์และป้องกันภัยคุกคามได้ก่อนที่จะเกิดเหตุผ่านการวิเคราะห์และการจำลองเหตุการณ์ที่ซับซ้อนแบบอัตโนมัติ สร้างความได้เปรียบในเรื่องเวลาและทรัพยากรที่มีคุณค่าของบริษัท

ภายใต้แนวคิดการนำ Smart Digital Transformation มาปรับใช้กับทุกฟังก์ชั่นภายในบริษัทเพื่อสร้างสิ่งใหม่หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งเก่าจากการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัล อาร์ วี คอนเน็กซ์ นำเครื่องมือดิจิทัลฉลาดมาใช้พัฒนาในส่วนแกนเทคโนโลยีอื่น ๆ ของบริษัท เช่น การใช้เทคโนโลยี AI ML เพิ่มประสิทธิภาพ Autopilot System (ระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับระบบไร้คนขับ), Tactical Data Link:TDL (ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี) และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่พัฒนาโดยบริษัทรวมถึงระบบปฏิบัติการทางธุรการต่าง ๆ ที่ใช้ภายในบริษัท เช่น Accounting และ ERP (Enterprise Resource Planning) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไร้การปรับเปลี่ยน พัฒนาบุคลากร (Upskill and Reskill) และการหลอมรวมวิถีการทำงานร่วมกันระหว่างหลากหลายเจนเนอร์เรชั่นซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของบริษัทสู่ความเป็น “Generation of Now”